ไลโคปีน (Lycopene) เป็นสารสำคัญที่พบได้ในผลมะเขือเทศ จัดเป็นสารประกอบในกลุ่มแคโรทีนอยด์ชนิดหนึ่ง ใน 600 ชนิด พบไลโคปีนได้ใน มะเขือเทศ และผลไม้ บางชนิด เช่น แตงโม เกรพฟรุตสีชมพู ฝรั่งสีชมพู และมะละกอ เป็นต้น
ไลโคปีน เป็นสารประกอบที่ได้รับความสนใจ เนื่องจากมีรายงานว่า มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะการลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง ที่อวัยวะต่าง ๆ ที่ชัดเจนที่สุด คือ มะเร็งต่อมลูกหมาก รองลงมา คือ มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะอาหาร นอกจาำำกนั้นก็ยังช่วยลดความเสี่ยงในมะเร็งอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน เช่น ตับอ่อน ลำไส้ใหญ่ ทวารหนัก คอหอย ช่องปาก เต้านม และ ปาก
ความเชื่อที่ว่าของสดดีกว่าของที่ปรุงแล้ว ไม่ได้เป็นจริงเสมอไป ในกรณีของมะเขือเทศนั้น เป็นหนึ่งในข้อยกเว้น เพราะมะเขือเทศที่ผ่านความร้อน จะทำให้การยึดจับของไลโคปีนกับเนื้อเยื่อของมะเขือเทศอ่อนตัวลง ทำให้ไลโคปีน ถูกร่างกายนำไปใช้ได้ดีกว่า นอกจากนี้ ความร้อนและกระบวนการต่าง ๆ ในการผลิต ผลิตภัณฑ์มะเขือเทศ ยังทำให้ไลโคปีน เปลี่ยนรูปแบบ จากไลโคปีน ชนิด “ออลทรานส์” (all-trans-isomers) เป็นชนิด “ซิส” (cis -isomers) คือ เป็นชนิดที่ละลายได้ดีขึ้น
โดยทั่วไป ปริมาณไลโคปีนในผลไม้และมะเขือเทศสด จะไม่แตกต่างกันมาก แต่เมื่อนำมะเขือเทศสดไปผ่านกระบวนการผลิต ให้อยู่ในรูปของผลิตภัณฑ์มะเขือเทศชนิดต่าง ๆ พบว่าปริมาณไลโคปีนสูงขึ้นมาก เนื่องจากมีการผ่านกระบวนการ ทำให้เข้มข้นขึ้น ดังนั้น อาหารอิตาเลียน พวกพิซซ่า สปาเก็ตตี้ ที่มีการแต่งรสด้วยซอส ที่ผลิตจากมะเขือเทศ จึงเป็นแหล่งให้ไลโคปีนที่ดี
มะเขือเทศสด 0.88 - 4.20
มะเขือเทศปรุงสุก 3.70
ซอสมะเขือเทศ 6.20
ซุปมะเขือเทศเข้มข้น 7.99
น้ำมะเขือเทศ 5.00 - 11.60
ซอสพิซซ่า 12.71
มะเขือเทศผง 112.63 - 126.49
ผลิตภัณฑ์มะเขือเทศเข้มข้น 5.40 - 150.00
ผลิตภัณฑ์มะเขือเทศเข้มข้น 5.40 - 150.00
นอกจาก วิตามินซีที่มีสูงในมะเขือเทศแล้ว วิตามินอื่น ๆ ก็มีอยู่ครบทุกชนิด แถมเปลือกนอกของมะเขือเทศยังมีสารชนิดเดียวกับที่พบในเปลือกองุ่นแดง ที่เชื่อว่ามีส่วนช่วยป้องกันโรคหัวใจขาดเลือดได้อีกด้วย หากรับประทานบ่อย ๆ ยังช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่น ชะลอความชรา หรือ นำมะเขือเทศสุกมาฝานเป็นแผ่นบาง ๆ แปะไว้บนใบหน้า จะช่วยทำให้ใบหน้าเปล่งปลั่งผิวสวยสดใส
ที่มา : ข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น