วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2554

STEVE JOBS


STEVE JOBS
(24  February 1955 - 5  October  2011)
Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being,
Those of us who have been fortunate enough to know and work with Steve have lost a dear friend
and an inspiring mentor, Steve leaves behind a company that only he could have built,
and his spirit will forever be the foundation of apple.
....................................

           สตีเฟน พอล "สตีฟ" จอบส์  เป็นผู้นำธุรกิจและนักประดิษฐ์ชาวอเมริกัน ผู้ร่วมก่อตั้ง ประธาน อดีตประธานกรรมการบริหารของแอปเปิ้ลคอมพิวเตอร์ และยังเคยเป็นประธานกรรมการบริหาร พิกซาร์แอนิเมชันสตูดิโอส์ และเป็นคณะกรรมการบริหาร บริษัทเดอะวอลต์ดิสนีย์ ใน ค.ศ. 2006 หลังดิสนีย์ซื้อกิจการพิกซาร์

          สตีฟ จอบส์ เกิดที่เมือง ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นบุตรบุญธรรมของนายพอล และนางคลารา จอบส์ (สกุลเดิม ฮาโกเพียน) ต่อมาพ่อแม่บุญธรรมก็รับผู้หญิงมาเป็นบุตรบุญธรรมอีกคน ชื่อ แพตตี้ ส่วนบิดามารดาที่แท้จริงของจอบส์ เขามีบิดาชื่อ นายอับดุลฟัตตะห์ จันดาลี ชาวซีเรียมุสลิม นักศึกษา (ในขณะนั้น) แต่ต่อมาได้ทำงานเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย สาขารัฐศาสตร์ กับนางโจแอน ซิมป์สัน นักศึกษาชาวอเมริกัน ต่อมาได้ทำงานเป็นวิทยากรในการบำบัด ต่อมาภายหลัง บิดา มารดา ได้สมรสกันและให้กำเนิดน้องสาวร่วมสายเลือดของจอบส์ คือ โมนา ซิมป์สัน นักแต่งนวนิยาย

          ในปี ค.ศ.1972 จอบส์ จบการศึกษาจาก โฮมสตีดไฮสคูล ในเมือง คิวเปอร์ทีโน มลรัฐแคลิฟอร์เนีย และได้สมัครเข้าเรียนต่อที่ วิทยาลัยรีด (Reed College) ในเมือง พอร์ตแลนด์ มลรัฐโอเรกอน  แต่ก็ต้องลาพักการเรียนหลังจากเข้าเรียนได้เพียงหนึ่งภาคการศึกษา

           ในปี ค.ศ.1976 สตีฟ จอบส์ ในวัย 21 ปี กับ สตีป วอซเนียก วัย 26 ปี ได้ก่อตั้งบริษัท แอปเปิ้ล คอมพิวเตอร์ ขึ้นในโรงรถที่บ้านของครอบครัวจอบส์ เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรก ที่จอบส์กับวอซเนียกได้นำเสนอออกสู่สายตาได้แก่เครื่อง Apple I มันถูกตั้งราคาไว้ที่ 666.66 ดอลลาร์สหรัฐ โดยนำตัวเลขมาจากหมายเลขโทรศัพท์ ของเครื่องตอบโทรศัพท์เล่าเรื่องตลกขบขันของวอซเนียก ที่มีเบอร์โทรลงท้ายด้วย - 6666

          ใน ปี ค.ศ.1983 จอบส์ได้ว่าจ้าง จอห์น สกัลลีย์ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท เป็บซี่-โคล่า ให้มาดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของแอปเปิล โดยที่จอบส์ได้กล่าวท้าทายเขาว่า "คุณต้องการจะใช้ช่วงชีวิตที่เหลืออยู่ไปกับการขายน้ำหวาน หรือว่าต้องการโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงโลกนี้กันแน่?"   




          ใน ปี ค.ศ.1985 ภายหลังจากประสบปัญหาขัดแย้ง เรื่องอำนาจภายในบริษัท จอบส์ ถูกคณะกรรมการบริหารของแอปเปิล ถอดออกจากภารกิจต่าง ๆ ที่เขาเป็นผู้รับผิดชอบ และได้ลาออกในที่สุด หลังจากออกจากแอปเปิล จอบส์ได้ก่อตั้งบริษัทคอมพิวเตอร์ขึ้นมาใหม่ ชื่อว่า เน็กซ์ (NeXT) และได้ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ รุ่นเน็กซ์คิวบ์ (NeXT Cube) ถือกำเนิดขึ้นจากแนวความคิดทางปรัชญาของจอบส์ในเรื่องของ "คอมพิวเตอร์ระหว่างบุคคล" ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นก้าวสำคัญหลังจากมีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเกิดขึ้น นั่นคือ สามารถให้มนุษย์สื่อสารและประสานงานกันอย่างง่ายดาย
 
          ใน ปี ค.ศ.1986 จอบส์ได้ร่วมกับเอ็ดวิน แคทมิลล์ ก่อตั้งพิกซาร์ ซึ่งเป็นสตูดิโอสร้างภาพยนตร์แอนิเมชันด้วยคอมพิวเตอร์ บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้น โดยซื้อกิจการต่อมาจากจอร์จ ลูคัส ผู้ก่อตั้ง ด้วยราคา 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หนึ่งในสามของราคาที่ตั้งไว้  พิกซาร์ได้กลายเป็นบริษัทที่โด่งดังและประสบความสำเร็จในอีกหนึ่งทศวรรษให้หลัง ด้วยภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องยาวแหวกแนว เรื่อง "ทอย สตอรี่" และจากนั้นก็ได้ผลิตภาพยนตร์ที่ชนะการประกวดหลายเรื่อง และต่างได้รับรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม  เมื่อวันที่ 24 มกราคม ค.ศ. 2006 บริษัทเดอะวอลต์ดิสนีย์ได้เข้าซื้อกิจการของพิกซาร์ด้วยวิธีแลกหุ้น การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้มีมูลค่า 7.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ

          จอบส์เข้าพิธีสมรสกับลอเรนซ์ พาวเวลล์ เมื่อวัน 18 มีนาคม ค.ศ.1991 และมีบุตรด้วยกันสามคน จอบส์ยังมีลูกสาวหนึ่งคน ชื่อลิซา จอบส์ ที่เกิดจากสตรีผู้หนึ่งซึ่งเขาไม่ได้แต่งงานด้วย

          ในปี ค.ศ.1996 แอปเปิลได้ซื้อกิจการบริษั เน็กซ์ คอมพิวเตอร์ ด้วยราคา 402 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำจอบส์กลับมาสู่บริษัทที่เขาก่อตั้งเอาไว้

          ในปี ค.ศ.1997 เขาได้กลายเป็นผู้บริหารระดับสูง "ชั่วคราว" ของแอปเปิล ในช่วงที่กลับมาดำรงตำแหน่งผู้นำของแอปเปิล จอบส์เรียกชื่อตำแหน่งของเขาว่า "ไอซีอีโอ" (iCEO)

          ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ บริษัทแอปเปิล คอมพิวเตอร์ ได้ขยายกิจการไปหลายสาขา ด้วยการเปิดตัวไอพ็อต (ipod) เครื่องเล่นดนตรีขนาดพกพา ไอทูนส์ (itools) ซอฟต์แวร์สำหรับดนตรีดิจิทัล เป็นต้น ด้วยแรงผลักดันทางนวัตกรรม จอบส์มักจะเตือนพนักงานของเขาว่า "ศิลปินที่แท้จริงต้องส่งงาน" ซึ่งหมายความว่าการจัดส่งผลิตภัณฑ์ให้ตรงเวลานั้น มีความสำคัญพอ ๆ กับนวัตกรรมและการออกแบบที่โดนใจผู้ใช้

          จอบส์ทำงานที่บริษัทแอปเปิลเป็นเวลาหลายปีติดกัน ด้วยค่าจ้างรายปีเพียง 1 ดอลลาร์สหรัฐ  และนั่นทำให้เขาได้ถูกบันทึกไว้ในสถิติโลกกินเนสส์ว่า เป็นผู้บริหารระดับสูงที่ได้รับค่าจ้างต่ำที่สุดในโลก

          ในการเป็นองค์นำปาฐกถา ที่งานแมคเวิลด์เอกซ์โป (Macworld Expo) ในนครซานฟรานซิสโก บริษัทได้ตัดคำว่า "ชั่วคราว" ออกจากตำแหน่งของเขา และนอกจากนั้นเขา็ได้รับของขวัญพิเศษจำนวนมาก ที่สร้างรายได้แก่เขา รวมถึงเครื่องบินเจ็ต Gulfstream V มูลค่า 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี ค.ศ.1999 และหุ้นมูลค่าเกือบ ๆ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากหุ้นบุริมสิทธิ์ ในปี ค.ศ.2000-2002 ดังนั้น จอบส์จึงได้รับค่าตอบแทนอย่างงามสำหรับความพยายามของเขาที่แอปเปิล แม้จะได้ชื่อว่ามีค่าจ้างเพียง 1 ดอลลาร์สหรัฐก็ตาม

          เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ค.ศ.2004 จอบส์ได้เข้ารับการผ่าตัด เขาเป็นโรคมะเร็งในตับอ่อน ซึ่งในแบบที่พบได้น้อยมาก ที่เรียกว่า "เนื้องอกในเซลล์ที่ผลิตอินซูลินอันส่งผลต่อระบบประสาทที่ควบคุมการทำงานของร่างกาย" (islet cell neuroendocrine tumor) ซึ่งเป็นเนื้องอกที่ไม่ต้องการเคมีบำบัด หรือรังสีบำบัด แต่อย่างใด ระหว่างที่เขาป่วย ทิม คุก ผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้างานขายและปฏิบัติการทั่วโลกของแอปเปิล เป็นผู้บริหารงานแทน

          ในวันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ. 2011 หลังจากที่แอปเปิล ประกาศเปิดตัว ไอโฟน 4เอส ได้เพียงแค่วันเดียว แอปเปิลคอมพิวเตอร์ประกาศว่า สตีฟ จ็อบส์ เสียชีวิตอย่างสงบแล้วจากโรคมะเร็งตับอ่อนรุมเร้า มาตั้งแต่กลางปี ค.ศ. 2004 ด้วยวัยเพียง 56 ปี
 


" แอปเปิลได้สูญเสียผู้ที่มีวิสัยทัศน์ และอัจฉริยบุคคลผู้สร้างสรรค์
และโลกก็ได้สูญเสียมนุษย์ผู้น่าทึ่ง พวกเราผู้โชคดีที่มีโอกาสได้รู้จักและทำงานกับสตีฟ
ได้สูญเสียเพื่อนรัก และที่ปรึกษาผู้สร้างแรงบันดาลใจ
สิ่งที่สตีฟได้ทิ้งไว้ก็คือ บริษัทที่มีเพียงเขาเท่านั้นจึงจะสามารถสร้าง ขึ้นมาได้
และวิญญาณของเขาจะเป็นรากฐานของแอปเปิลชั่วนิรันดร์ "

************************



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น